ISTYELLOW

สวัสดีค่ะ พี่หมอ รบกวนช่วยแนะนำเรื่องระบบ WIFI Network ให้หน่อยค่ะ ^^
Ep.06 สวัสดี ค่ะหมอ ^^ IST YELLOW ฉบับนี้ เรามีโอกาสได้สัมภาษณ์ พี่หมอ (แต่จริงๆ แล้ว เป็นเด็กสาขา NETS) รุ่นพี่คนนี้เป็นทั้งนักกิจกรรม เด็กเกียรตินิยมอันดับ 1 หัวหน้าชมรม ผู้คว้ารางวัลชนะเลิศทางด้าน Network ระดับประเทศ คือพี่คะ สำหรับหนูพี่คือ Superman ตัวเป็นๆ ที่มาของฉายา "พี่หมอ" มาจากการที่เคยเป็นนักศึกษาแพทย์ มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ แต่ก็ผันตัวมาเรียนสายเทคโนโลยี ระบบเครือข่ายในสาขาวิศวกรรมเครือข่ายฯ ของคณะเรา จากเรื่องราวนี้ พี่ๆ น้องๆ ในคณะจึงรู้กันว่า "พี่หมอ NETS" ก็คือ พี่ดิ๊บ ณัฐพล เปรมจิตต์เสถียร นั่นเอง ^^ "The NetRider"

Who are You

แนะนำตัวหน่อยค่ะ ? “ สวัสดีครับ ดิ๊บครับ (แต่เพื่อนๆ ในคณะฯ เรียก “หมอ”, “พี่หมอ”, “ไอ้หมอ” แล้วแต่ความสนิท ฮ่าๆๆ) ” ก่อนมาเรียนที่นี่ ได้ข่าวว่าพี่เป็นนักศึกษาแพทย์ ? “ เคยเรียนอยู่ในคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่ออกมาก่อนเนื่องจากพบว่าตัวเองไม่ชอบการทำงานในสายอาชีพหมอ ส่วนหนึ่งเพราะต้องแบกรับความกดดันกับชีวิตคนมากเกินไป และเรียนหนักมากไม่ชอบ ฮ่าๆๆ ถ้าไม่ใจรักหรืออดทนมากๆ นี่ทำไม่ได้จริงๆ รู้จักที่นี่ผ่านทางพ่อครับ พ่ออยู่ฝ่ายบุคคลของบริษัทแห่งหนึ่ง ก็เลยรู้จักมหาวิทยาลัยหลายๆ แห่ง พอบอกว่าอยากเรียนเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ่อก็แนะนำที่นี่ครับ แล้วก็พี่ชายทำงานด้านสาย Network ด้วย พี่ก็แนะนำเกี่ยวกับงานด้านนี้ ก็เลยรู้สึกชอบครับ บวกกับปีที่เข้านั้นเป็นปีแรกที่ IST เปิดสาขา NETS ด้วย เลยยิ่งสนใจเลยครับ"
ตอนนี้ทำงานที่ไหน ? “ บริษัท AIT (Advanced Information Technology PCL.) ครับ ตำแหน่ง Project Engineer ” เส้นทางสู่เวที NetRiders ? “ ตอนนั้นปิดเทอมปี 1 กำลังจะขึ้นปี 2 อ.ณัฐ มาเจริญ ส่งไปลองสนามครับ ทำไม่ได้เลยครับ เข้ารอบสุดท้าย 20 ทีมแล้วก็แพ้ครับ หลังจากนั้นเลยตั้งเป้าว่ายังไงต้องแก้มือให้ได้ เลยลุยอ่านหนังสือมากขึ้นเยอะครับ เตรียมตัวสำหรับปีถัดไป คิดว่าจะทำให้ได้ จนปี 2013 และ ปี 2014 ได้รับรางวัลชนะเลิศ Cisco Thailand Netrider 2 สมัย , รางวัลชนะเลิศการแข่งขันค้นหาสุดยอดฝีมือโทรคมนาคมและไอซีทีเฉลิมพระเกียรติ ครั้งที่ 7 ปี 2014 ” เราฟังพี่หมอเล่าเรื่องราวเบื้องหลังการแข่งขันแล้ว เราไม่แปลกใจเลยที่พี่หมอ จะได้รับรางวัลนี้ เพราะพี่เขาทุ่มเท ทุกๆ อย่างเพื่อ NetRider จริงๆ
พี่สุดยอดมากค่ะ ตอนเรียนพี่คิดอะไรอยู่ ?  “ สำคัญสุดคือความรู้พื้นฐานครับ เราต้องรู้ว่าวิชาไหน ที่เป็นพื้นฐาน ที่เราสามารถนำไปต่อยอดกับวิชาอื่นๆ ได้ครับ บางคนตอนเรียนวิชา A ไม่สนใจ ไม่ขยัน ปล่อยผ่าน พอเทอมถัดไปเรียนวิชา B จะกลับมาขยัน บางทีมันลำบากแล้วครับ เพราะมันใช้ความรู้วิชา A ด้วย ” เราเห็นด้วย และก็รู้สึกเหมือนโดนตำหนิ ในเวลาเดียวกัน ฮ่าๆๆๆ " สำคัญที่สุดก็คงเป็นเรื่องที่เรา บอกกับตัวเองว่าเราจะช้าไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว ต้องวิ่งครับไม่เดินแล้ว "
มีวิธีรับมือกับความกดดันอย่างไร ? “ ใช้ชีวิตแบบคิดบวกครับ ไม่อย่างงั้นไม่มีความสุขหรอกครับ มันต้องมีทั้งเรื่องที่ดีและไม่ดีเกิด กับชีวิตเราครับ เราเลือกเก็บแต่สิ่งที่ดีๆ ก็พอครับ ยิ่งถ้าทำงานสายนี้ด้วยแล้ว เรื่องเทคโนโลยีครับ มันผ่านมาไว แล้วก็ไปไวครับ ต้องขยันเรียนรู้อยู่ตลอดครับ ถ้ามันยึดติดกับเรื่องที่บั่นทอนจิตใจ ก็ไม่ต้องทำอะไรกันพอดี ”
ถ้าพูดถึงคณะฯ จะนึกถึง ? “ ป้าย Quote เด็ดของอาจารย์แต่ละท่านบนป้ายที่แขวนอยู่ในตึก Q ครับ คือมันใช่มาก ฮ่าๆๆ มันทำให้นึกถึงบรรยากาศความเป็นกันเองระหว่าง อาจารย์และลูกศิษย์ด้วยครับ ”
" จริงๆ แล้วเวลา เป็นค่าใช้จ่าย อย่างหนึ่ง ที่ทุกคนมีรายรับ เท่ากัน แต่ทุกคนใช้จ่ายมัน ไม่เท่ากันครับ "

IST Confidence

วีดีโอที่พี่หมอ ได้ร่วมแสดงให้กับทางคณะ มาดเข้มมาเลย ^^"
เป้าหมายต่อไปจากวันนี้ ? " เรียนรู้เพิ่มเติมในสายงานนี้แหละครับ เก็บประสบการณ์ ความรู้ เพื่อนำไปสอบ Cert. ในสายงาน Cisco ให้ไปถึงระดับสูงสุด CCIE ให้ได้ครับ "
ถ้าจะให้แนะนำภาพยนตร์ สักเรื่อง ?
“ หนังเรื่อง 12 Angry Men ครับ เป็นหนังเก่ามากครับภาพยังเป็น ขาว-ดำอยู่เลย แต่เป็นหนังที่ดีมากครับ หนังกล่าวถึงคณะลูกขุน 12 คน ได้ตัดสินคดีๆหนึ่ง โดยคดีที่ตัดสินมีผลต่อชีวิตของเด็กที่เป็น จำเลยว่าจะโดนประหารหรือไม่ ในตอนต้นเรื่องคะแนนเป็น 11 ต่อ 1 โดย 11 เสียงนั้นให้เด็กผิดจริง โดยหนังที่เหลือทั้งเรื่องเป็นฉากที่พระเอกซึ่งก็คือ 1 เสียงในตอนแรก ใช้เหตุผลในการถกเถียงกับ 11 เสียงครับ ที่ชอบมี 2 เหตุผลครับ 1. หนังเรื่องนี้สะท้อนสังคมมากๆครับฉากการถกเถียงกันของคณะลูกขุน เปรียบแทนความคิด การใช้เหตุผล อคติ หลายรูปแบบเลยครับ 2. หนังเรื่องนี้มีฉากหลักแค่ฉากเดียวครับคือในห้องตัดสินของคณะลูกขุน มีฉากอื่นนิดหน่อย ซึ่งแม้จะเป็นอย่างนั้นหนังก็ทำออกมาได้น่าติดตาม ไม่น่าเบื่อเลยครับ ”
" ดิ๊บเป็นตัวอย่างที่ดี ในการใช้ชีวิต เป็นคนที่จัดการกับชีวิตได้อย่างมีระบบ และสร้างสรรค์สิ่งดีๆ เพื่อส่วนรวมอยู่เสมอ " อ.ณัฐ มาเจริญ

ฝากประชาสัมพันธ์ เปิดรับสมัคร นักศึกษาใหม่ ปีการศึกษา 2559 www.it.mut.ac.th 
สอบถามข้อมูล
คณะวิทยาการและเทคโนโลยีสารสนเทศ (IST)


All content © IST , 2016. All rights reserved.

สวัสดีค่ะ พี่หมอ รบกวนช่วยแนะนำเรื่องระบบ WIFI Network ให้หน่อยค่ะ ^^
Ep.06 สวัสดี ค่ะหมอ ^^ IST YELLOW ฉบับนี้ เรามีโอกาสได้สัมภาษณ์ พี่หมอ (แต่จริงๆ แล้ว เป็นเด็กสาขา NETS) รุ่นพี่คนนี้เป็นทั้งนักกิจกรรม เด็กเกียรตินิยมอันดับ 1 หัวหน้าชมรม ผู้คว้ารางวัลชนะเลิศทางด้าน Network ระดับประเทศ คือพี่คะ สำหรับหนูพี่คือ Superman ตัวเป็นๆ ที่มาของฉายา "พี่หมอ" มาจากการที่เคยเป็นนักศึกษาแพทย์ มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ แต่ก็ผันตัวมาเรียนสายเทคโนโลยี ระบบเครือข่ายในสาขาวิศวกรรมเครือข่ายฯ ของคณะเรา จากเรื่องราวนี้ พี่ๆ น้องๆ ในคณะจึงรู้กันว่า "พี่หมอ NETS" ก็คือ พี่ดิ๊บ ณัฐพล เปรมจิตต์เสถียร นั่นเอง ^^ "The NetRider"
แนะนำตัวหน่อยค่ะ ? “ สวัสดีครับ ดิ๊บครับ (แต่เพื่อนๆ ในคณะฯ เรียก “หมอ”, “พี่หมอ”, “ไอ้หมอ” แล้วแต่ความสนิท ฮ่าๆๆ) ” ก่อนมาเรียนที่นี่ ได้ข่าวว่าพี่เป็นนักศึกษาแพทย์ ? “ เคยเรียนอยู่ในคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่ออกมาก่อนเนื่องจากพบว่าตัวเองไม่ชอบการทำงานในสายอาชีพหมอ ส่วนหนึ่งเพราะต้องแบกรับความกดดันกับชีวิตคนมากเกินไป และเรียนหนักมากไม่ชอบ ฮ่าๆๆ ถ้าไม่ใจรักหรืออดทนมากๆ นี่ทำไม่ได้จริงๆ รู้จักที่นี่ผ่านทางพ่อครับ พ่ออยู่ฝ่ายบุคคลของบริษัทแห่งหนึ่ง ก็เลยรู้จักมหาวิทยาลัยหลายๆ แห่ง พอบอกว่าอยากเรียนเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ่อก็แนะนำที่นี่ครับ แล้วก็พี่ชายทำงานด้านสาย Network ด้วย พี่ก็แนะนำเกี่ยวกับงานด้านนี้ ก็เลยรู้สึกชอบครับ บวกกับปีที่เข้านั้นเป็นปีแรกที่ IST เปิดสาขา NETS ด้วย เลยยิ่งสนใจเลยครับ"
ตอนนี้ทำงานที่ไหน ? “ บริษัท AIT (Advanced Information Technology PCL.) ครับ ตำแหน่ง Project Engineer ” เส้นทางสู่เวที NetRiders ? “ ตอนนั้นปิดเทอมปี 1 กำลังจะขึ้นปี 2 อ.ณัฐ มาเจริญ ส่งไปลองสนามครับ ทำไม่ได้เลยครับ เข้ารอบสุดท้าย 20 ทีมแล้วก็แพ้ครับ หลังจากนั้นเลยตั้งเป้าว่ายังไงต้องแก้มือให้ได้ เลยลุยอ่านหนังสือมากขึ้นเยอะครับ เตรียมตัวสำหรับปีถัดไป คิดว่าจะทำให้ได้ จนปี 2013 และ ปี 2014 ได้รับรางวัลชนะเลิศ Cisco Thailand Netrider 2 สมัย , รางวัลชนะเลิศการแข่งขันค้นหาสุดยอดฝีมือโทรคมนาคมและไอซีทีเฉลิมพระเกียรติ ครั้งที่ 7 ปี 2014 ” เราฟังพี่หมอเล่าเรื่องราวเบื้องหลังการแข่งขันแล้ว เราไม่แปลกใจเลยที่พี่หมอ จะได้รับรางวัลนี้ เพราะพี่เขาทุ่มเท ทุกๆ อย่างเพื่อ NetRider จริงๆ
พี่สุดยอดมากค่ะ ตอนเรียนพี่คิดอะไรอยู่ ?  “ สำคัญสุดคือความรู้พื้นฐานครับ เราต้องรู้ว่าวิชาไหน ที่เป็นพื้นฐาน ที่เราสามารถนำไปต่อยอดกับวิชาอื่นๆ ได้ครับ บางคนตอนเรียนวิชา A ไม่สนใจ ไม่ขยัน ปล่อยผ่าน พอเทอมถัดไปเรียนวิชา B จะกลับมาขยัน บางทีมันลำบากแล้วครับ เพราะมันใช้ความรู้วิชา A ด้วย ” เราเห็นด้วย และก็รู้สึกเหมือนโดนตำหนิ ในเวลาเดียวกัน ฮ่าๆๆๆ " สำคัญที่สุดก็คงเป็นเรื่องที่เรา บอกกับตัวเองว่าเราจะช้าไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว ต้องวิ่งครับไม่เดินแล้ว "
มีวิธีรับมือกับความกดดันอย่างไร ? “ ใช้ชีวิตแบบคิดบวกครับ ไม่อย่างงั้นไม่มีความสุขหรอกครับ มันต้องมีทั้งเรื่องที่ดีและไม่ดีเกิด กับชีวิตเราครับ เราเลือกเก็บแต่สิ่งที่ดีๆ ก็พอครับ ยิ่งถ้าทำงานสายนี้ด้วยแล้ว เรื่องเทคโนโลยีครับ มันผ่านมาไว แล้วก็ไปไวครับ ต้องขยันเรียนรู้อยู่ตลอดครับ ถ้ามันยึดติดกับเรื่องที่บั่นทอนจิตใจ ก็ไม่ต้องทำอะไรกันพอดี ”
ถ้าพูดถึงคณะฯ จะนึกถึง ? “ ป้าย Quote เด็ดของอาจารย์แต่ละท่านบนป้ายที่แขวนอยู่ในตึก Q ครับ คือมันใช่มาก ฮ่าๆๆ มันทำให้นึกถึงบรรยากาศความเป็นกันเองระหว่าง อาจารย์และลูกศิษย์ด้วยครับ ”
วีดีโอที่พี่หมอ ได้ร่วมแสดงให้กับทางคณะ มาดเข้มมาเลย ^^"
เป้าหมายต่อไปจากวันนี้ ? " เรียนรู้เพิ่มเติมในสายงานนี้แหละครับ เก็บประสบการณ์ ความรู้ เพื่อนำไปสอบ Cert. ในสายงาน Cisco ให้ไปถึงระดับสูงสุด CCIE ให้ได้ครับ "
ถ้าจะให้แนะนำภาพยนตร์ สักเรื่อง ?
“ หนังเรื่อง 12 Angry Men ครับ เป็นหนังเก่ามากครับภาพยังเป็น ขาว-ดำอยู่เลย แต่เป็นหนังที่ดีมากครับ หนังกล่าวถึงคณะลูกขุน 12 คน ได้ตัดสินคดีๆหนึ่ง โดยคดีที่ตัดสินมีผลต่อชีวิตของเด็กที่เป็น จำเลยว่าจะโดนประหารหรือไม่ ในตอนต้นเรื่องคะแนนเป็น 11 ต่อ 1 โดย 11 เสียงนั้นให้เด็กผิดจริง โดยหนังที่เหลือทั้งเรื่องเป็นฉากที่พระเอกซึ่งก็คือ 1 เสียงในตอนแรก ใช้เหตุผลในการถกเถียงกับ 11 เสียงครับ ที่ชอบมี 2 เหตุผลครับ 1. หนังเรื่องนี้สะท้อนสังคมมากๆครับฉากการถกเถียงกันของคณะลูกขุน เปรียบแทนความคิด การใช้เหตุผล อคติ หลายรูปแบบเลยครับ 2. หนังเรื่องนี้มีฉากหลักแค่ฉากเดียวครับคือในห้องตัดสินของคณะลูกขุน มีฉากอื่นนิดหน่อย ซึ่งแม้จะเป็นอย่างนั้นหนังก็ทำออกมาได้น่าติดตาม ไม่น่าเบื่อเลยครับ ”
" ดิ๊บเป็นตัวอย่างที่ดี ในการใช้ชีวิต เป็นคนที่จัดการกับชีวิตได้อย่างมีระบบ และสร้างสรรค์สิ่งดีๆ เพื่อส่วนรวมอยู่เสมอ " อ.ณัฐ มาเจริญ
ISTYELLOW บทสัมภาษณ์ที่ ผ่านมา

ฝากประชาสัมพันธ์ เปิดรับสมัคร นักศึกษาใหม่ ปีการศึกษา 2559 www.it.mut.ac.th 
สอบถามข้อมูล
คณะวิทยาการและเทคโนโลยีสารสนเทศ (IST)

สวัสดีค่ะ พี่หมอ รบกวนช่วยแนะนำเรื่องระบบ WIFI Network ให้หน่อยค่ะ ^^
Ep.06 สวัสดี ค่ะหมอ ^^ IST YELLOW ฉบับนี้ เรามีโอกาสได้สัมภาษณ์ พี่หมอ (แต่จริงๆ แล้ว เป็นเด็กสาขา NETS) รุ่นพี่คนนี้เป็นทั้งนักกิจกรรม เด็กเกียรตินิยมอันดับ 1 หัวหน้าชมรม ผู้คว้ารางวัลชนะเลิศทางด้าน Network ระดับประเทศ คือพี่คะ สำหรับหนูพี่คือ Superman ตัวเป็นๆ ที่มาของฉายา "พี่หมอ" มาจากการที่เคยเป็นนักศึกษาแพทย์ มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ แต่ก็ผันตัวมาเรียนสายเทคโนโลยี ระบบเครือข่ายในสาขาวิศวกรรมเครือข่ายฯ ของคณะเรา จากเรื่องราวนี้ พี่ๆ น้องๆ ในคณะจึงรู้กันว่า "พี่หมอ NETS" ก็คือ พี่ดิ๊บ ณัฐพล เปรมจิตต์เสถียร นั่นเอง ^^
"The NetRider"
แนะนำตัวหน่อยค่ะ ? “ สวัสดีครับ ดิ๊บครับ (แต่เพื่อนๆ ในคณะฯ เรียก “หมอ”, “พี่หมอ”, “ไอ้หมอ” แล้วแต่ความสนิท ฮ่าๆๆ) ” ก่อนมาเรียนที่นี่ ได้ข่าวว่าพี่เป็นนักศึกษาแพทย์ ? “ เคยเรียนอยู่ในคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่ออกมาก่อนเนื่องจากพบว่าตัวเองไม่ชอบการทำงานในสายอาชีพหมอ ส่วนหนึ่งเพราะต้องแบกรับความกดดันกับชีวิตคนมากเกินไป และเรียนหนักมากไม่ชอบ ฮ่าๆๆ ถ้าไม่ใจรักหรืออดทนมากๆ นี่ทำไม่ได้จริงๆ รู้จักที่นี่ผ่านทางพ่อครับ พ่ออยู่ฝ่ายบุคคลของบริษัทแห่งหนึ่ง ก็เลยรู้จักมหาวิทยาลัยหลายๆ แห่ง พอบอกว่าอยากเรียนเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ่อก็แนะนำที่นี่ครับ แล้วก็พี่ชายทำงานด้านสาย Network ด้วย พี่ก็แนะนำเกี่ยวกับงานด้านนี้ ก็เลยรู้สึกชอบครับ บวกกับปีที่เข้านั้นเป็นปีแรกที่ IST เปิดสาขา NETS ด้วย เลยยิ่งสนใจเลยครับ"
ตอนนี้ทำงานที่ไหน ? “ บริษัท AIT (Advanced Information Technology PCL.) ครับ ตำแหน่ง Project Engineer ” เส้นทางสู่เวที NetRiders ? “ ตอนนั้นปิดเทอมปี 1 กำลังจะขึ้นปี 2 อ.ณัฐ มาเจริญ ส่งไปลองสนามครับ ทำไม่ได้เลยครับ เข้ารอบสุดท้าย 20 ทีมแล้วก็แพ้ครับ หลังจากนั้นเลยตั้งเป้าว่ายังไงต้องแก้มือให้ได้ เลยลุยอ่านหนังสือมากขึ้นเยอะครับ เตรียมตัวสำหรับปีถัดไป คิดว่าจะทำให้ได้ จนปี 2013 และ ปี 2014 ได้รับรางวัลชนะเลิศ Cisco Thailand Netrider 2 สมัย , รางวัลชนะเลิศการแข่งขันค้นหาสุดยอดฝีมือโทรคมนาคมและไอซีทีเฉลิมพระเกียรติ ครั้งที่ 7 ปี 2014 ” เราฟังพี่หมอเล่าเรื่องราวเบื้องหลังการแข่งขันแล้ว เราไม่แปลกใจเลยที่พี่หมอ จะได้รับรางวัลนี้ เพราะพี่เขาทุ่มเท ทุกๆ อย่างเพื่อ NetRider จริงๆ
พี่สุดยอดมากค่ะ ตอนเรียนพี่คิดอะไรอยู่ ?
 “ สำคัญสุดคือความรู้พื้นฐานครับ เราต้องรู้ว่าวิชาไหน ที่เป็นพื้นฐาน ที่เราสามารถนำไปต่อยอดกับวิชาอื่นๆ ได้ครับ บางคนตอนเรียนวิชา A ไม่สนใจ ไม่ขยัน ปล่อยผ่าน พอเทอมถัดไปเรียนวิชา B จะกลับมาขยัน บางทีมันลำบากแล้วครับ เพราะมันใช้ความรู้วิชา A ด้วย ” เราเห็นด้วย และก็รู้สึกเหมือนโดนตำหนิ ในเวลาเดียวกัน ฮ่าๆๆๆ " สำคัญที่สุดก็คงเป็นเรื่องที่เรา บอกกับตัวเองว่าเราจะช้าไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว ต้องวิ่งครับไม่เดินแล้ว "
มีวิธีรับมือกับความกดดันอย่างไร ? “ ใช้ชีวิตแบบคิดบวกครับ ไม่อย่างงั้นไม่มีความสุขหรอกครับ มันต้องมีทั้งเรื่องที่ดีและไม่ดีเกิด กับชีวิตเราครับ เราเลือกเก็บแต่สิ่งที่ดีๆ ก็พอครับ ยิ่งถ้าทำงานสายนี้ด้วยแล้ว เรื่องเทคโนโลยีครับ มันผ่านมาไว แล้วก็ไปไวครับ ต้องขยันเรียนรู้อยู่ตลอดครับ ถ้ามันยึดติดกับเรื่องที่บั่นทอนจิตใจ ก็ไม่ต้องทำอะไรกันพอดี ”
ถ้าพูดถึงคณะฯ จะนึกถึง ? “ ป้าย Quote เด็ดของอาจารย์แต่ละท่านบนป้ายที่แขวนอยู่ในตึก Q ครับ คือมันใช่มาก ฮ่าๆๆ มันทำให้นึกถึงบรรยากาศความเป็นกันเองระหว่าง อาจารย์และลูกศิษย์ด้วยครับ ”
วีดีโอที่พี่หมอ ได้ร่วมแสดงให้กับทางคณะ มาดเข้มมาเลย ^^"
เป้าหมายต่อไปจากวันนี้ ? " เรียนรู้เพิ่มเติมในสายงานนี้แหละครับ เก็บประสบการณ์ ความรู้ เพื่อนำไปสอบ Cert. ในสายงาน Cisco ให้ไปถึงระดับสูงสุด CCIE ให้ได้ครับ "
ถ้าจะให้แนะนำภาพยนตร์ สักเรื่อง ?
“ หนังเรื่อง 12 Angry Men ครับ เป็นหนังเก่ามากครับภาพยังเป็น ขาว-ดำอยู่เลย แต่เป็นหนังที่ดีมากครับ หนังกล่าวถึงคณะลูกขุน 12 คน ได้ตัดสินคดีๆหนึ่ง โดยคดีที่ตัดสินมีผลต่อชีวิตของเด็กที่เป็น จำเลยว่าจะโดนประหารหรือไม่ ในตอนต้นเรื่องคะแนนเป็น 11 ต่อ 1 โดย 11 เสียงนั้นให้เด็กผิดจริง โดยหนังที่เหลือทั้งเรื่องเป็นฉากที่พระเอกซึ่งก็คือ 1 เสียงในตอนแรก ใช้เหตุผลในการถกเถียงกับ 11 เสียงครับ ที่ชอบมี 2 เหตุผลครับ 1. หนังเรื่องนี้สะท้อนสังคมมากๆครับฉากการถกเถียงกันของคณะลูกขุน เปรียบแทนความคิด การใช้เหตุผล อคติ หลายรูปแบบเลยครับ 2. หนังเรื่องนี้มีฉากหลักแค่ฉากเดียวครับคือในห้องตัดสินของคณะลูกขุน มีฉากอื่นนิดหน่อย ซึ่งแม้จะเป็นอย่างนั้นหนังก็ทำออกมาได้น่าติดตาม ไม่น่าเบื่อเลยครับ ”
" ดิ๊บเป็นตัวอย่างที่ดี ในการใช้ชีวิต เป็นคนที่จัดการกับชีวิตได้อย่างมีระบบ และสร้างสรรค์สิ่งดีๆ เพื่อส่วนรวมอยู่เสมอ " อ.ณัฐ มาเจริญ
ISTYELLOW บทสัมภาษณ์ที่ ผ่านมา

ฝากประชาสัมพันธ์ เปิดรับสมัคร นักศึกษาใหม่ ปีการศึกษา 2559 www.it.mut.ac.th 
สอบถามข้อมูล
คณะวิทยาการและเทคโนโลยีสารสนเทศ (IST)

สวัสดีค่ะ พี่หมอ รบกวนช่วยแนะนำเรื่องระบบ WIFI Network ให้หน่อยค่ะ ^^
Ep.06 สวัสดี ค่ะหมอ ^^ IST YELLOW ฉบับนี้ เรามีโอกาสได้สัมภาษณ์ พี่หมอ (แต่จริงๆ แล้ว เป็นเด็กสาขา NETS) รุ่นพี่คนนี้เป็นทั้งนักกิจกรรม เด็กเกียรตินิยมอันดับ 1 หัวหน้าชมรม ผู้คว้ารางวัลชนะเลิศทางด้าน Network ระดับประเทศ คือพี่คะ สำหรับหนูพี่คือ Superman ตัวเป็นๆ ที่มาของฉายา "พี่หมอ" มาจากการที่เคยเป็นนักศึกษาแพทย์ มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ แต่ก็ผันตัวมาเรียนสายเทคโนโลยี ระบบเครือข่ายในสาขาวิศวกรรมเครือข่ายฯ ของคณะเรา จากเรื่องราวนี้ พี่ๆ น้องๆ ในคณะจึงรู้กันว่า "พี่หมอ NETS" ก็คือ พี่ดิ๊บ ณัฐพล เปรมจิตต์เสถียร นั่นเอง ^^ "The NetRider"
แนะนำตัวหน่อยค่ะ ? “ สวัสดีครับ ดิ๊บครับ (แต่เพื่อนๆ ในคณะฯ เรียก “หมอ”, “พี่หมอ”, “ไอ้หมอ” แล้วแต่ความสนิท ฮ่าๆๆ) ” ก่อนมาเรียนที่นี่ ได้ข่าวว่าพี่เป็นนักศึกษาแพทย์ ? “ เคยเรียนอยู่ในคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่ออกมาก่อนเนื่องจากพบว่าตัวเองไม่ชอบการทำงานในสายอาชีพหมอ ส่วนหนึ่งเพราะต้องแบกรับความกดดันกับชีวิตคนมากเกินไป และเรียนหนักมากไม่ชอบ ฮ่าๆๆ ถ้าไม่ใจรักหรืออดทนมากๆ นี่ทำไม่ได้จริงๆ รู้จักที่นี่ผ่านทางพ่อครับ พ่ออยู่ฝ่ายบุคคลของบริษัทแห่งหนึ่ง ก็เลยรู้จักมหาวิทยาลัยหลายๆ แห่ง พอบอกว่าอยากเรียนเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ่อก็แนะนำที่นี่ครับ แล้วก็พี่ชายทำงานด้านสาย Network ด้วย พี่ก็แนะนำเกี่ยวกับงานด้านนี้ ก็เลยรู้สึกชอบครับ บวกกับปีที่เข้านั้นเป็นปีแรกที่ IST เปิดสาขา NETS ด้วย เลยยิ่งสนใจเลยครับ"
ตอนนี้ทำงานที่ไหน ? “ บริษัท AIT (Advanced Information Technology PCL.) ครับ ตำแหน่ง Project Engineer ” เส้นทางสู่เวที NetRiders ? “ ตอนนั้นปิดเทอมปี 1 กำลังจะขึ้นปี 2 อ.ณัฐ มาเจริญ ส่งไปลองสนามครับ ทำไม่ได้เลยครับ เข้ารอบสุดท้าย 20 ทีมแล้วก็แพ้ครับ หลังจากนั้นเลยตั้งเป้าว่ายังไงต้องแก้มือให้ได้ เลยลุยอ่านหนังสือมากขึ้นเยอะครับ เตรียมตัวสำหรับปีถัดไป คิดว่าจะทำให้ได้ จนปี 2013 และ ปี 2014 ได้รับรางวัลชนะเลิศ Cisco Thailand Netrider 2 สมัย , รางวัลชนะเลิศการแข่งขันค้นหาสุดยอดฝีมือโทรคมนาคมและไอซีทีเฉลิมพระเกียรติ ครั้งที่ 7 ปี 2014 ” เราฟังพี่หมอเล่าเรื่องราวเบื้องหลังการแข่งขันแล้ว เราไม่แปลกใจเลยที่พี่หมอ จะได้รับรางวัลนี้ เพราะพี่เขาทุ่มเท ทุกๆ อย่างเพื่อ NetRider จริงๆ
พี่สุดยอดมากค่ะ ตอนเรียนพี่คิดอะไรอยู่ ?  “ สำคัญสุดคือความรู้พื้นฐานครับ เราต้องรู้ว่าวิชาไหน ที่เป็นพื้นฐาน ที่เราสามารถนำไปต่อยอดกับวิชาอื่นๆ ได้ครับ บางคนตอนเรียนวิชา A ไม่สนใจ ไม่ขยัน ปล่อยผ่าน พอเทอมถัดไปเรียนวิชา B จะกลับมาขยัน บางทีมันลำบากแล้วครับ เพราะมันใช้ความรู้วิชา A ด้วย ” เราเห็นด้วย และก็รู้สึกเหมือนโดนตำหนิ ในเวลาเดียวกัน ฮ่าๆๆๆ " สำคัญที่สุดก็คงเป็นเรื่องที่เรา บอกกับตัวเองว่าเราจะช้าไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว ต้องวิ่งครับไม่เดินแล้ว "
มีวิธีรับมือกับความกดดันอย่างไร ? “ ใช้ชีวิตแบบคิดบวกครับ ไม่อย่างงั้นไม่มีความสุขหรอกครับ มันต้องมีทั้งเรื่องที่ดีและไม่ดีเกิด กับชีวิตเราครับ เราเลือกเก็บแต่สิ่งที่ดีๆ ก็พอครับ ยิ่งถ้าทำงานสายนี้ด้วยแล้ว เรื่องเทคโนโลยีครับ มันผ่านมาไว แล้วก็ไปไวครับ ต้องขยันเรียนรู้อยู่ตลอดครับ ถ้ามันยึดติดกับเรื่องที่บั่นทอนจิตใจ ก็ไม่ต้องทำอะไรกันพอดี ”
ถ้าพูดถึงคณะฯ จะนึกถึง ? “ ป้าย Quote เด็ดของอาจารย์แต่ละท่านบนป้ายที่แขวนอยู่ในตึก Q ครับ คือมันใช่มาก ฮ่าๆๆ มันทำให้นึกถึงบรรยากาศความเป็นกันเองระหว่าง อาจารย์และลูกศิษย์ด้วยครับ ”
วีดีโอที่พี่หมอ ได้ร่วมแสดงให้กับทางคณะ มาดเข้มมาเลย ^^"
เป้าหมายต่อไปจากวันนี้ ? " เรียนรู้เพิ่มเติมในสายงานนี้แหละครับ เก็บประสบการณ์ ความรู้ เพื่อนำไปสอบ Cert. ในสายงาน Cisco ให้ไปถึงระดับสูงสุด CCIE ให้ได้ครับ "
ถ้าจะให้แนะนำภาพยนตร์ สักเรื่อง ?
“ หนังเรื่อง 12 Angry Men ครับ เป็นหนังเก่ามากครับภาพยังเป็น ขาว-ดำอยู่เลย แต่เป็นหนังที่ดีมากครับ หนังกล่าวถึงคณะลูกขุน 12 คน ได้ตัดสินคดีๆหนึ่ง โดยคดีที่ตัดสินมีผลต่อชีวิตของเด็กที่เป็น จำเลยว่าจะโดนประหารหรือไม่ ในตอนต้นเรื่องคะแนนเป็น 11 ต่อ 1 โดย 11 เสียงนั้นให้เด็กผิดจริง โดยหนังที่เหลือทั้งเรื่องเป็นฉากที่พระเอกซึ่งก็คือ 1 เสียงในตอนแรก ใช้เหตุผลในการถกเถียงกับ 11 เสียงครับ ที่ชอบมี 2 เหตุผลครับ 1. หนังเรื่องนี้สะท้อนสังคมมากๆครับฉากการถกเถียงกันของคณะลูกขุน เปรียบแทนความคิด การใช้เหตุผล อคติ หลายรูปแบบเลยครับ 2. หนังเรื่องนี้มีฉากหลักแค่ฉากเดียวครับคือในห้องตัดสินของคณะลูกขุน มีฉากอื่นนิดหน่อย ซึ่งแม้จะเป็นอย่างนั้นหนังก็ทำออกมาได้น่าติดตาม ไม่น่าเบื่อเลยครับ ”
" ดิ๊บเป็นตัวอย่างที่ดี ในการใช้ชีวิต เป็นคนที่จัดการกับชีวิตได้อย่างมีระบบ และสร้างสรรค์สิ่งดีๆ เพื่อส่วนรวมอยู่เสมอ " อ.ณัฐ มาเจริญ
ISTYELLOW บทสัมภาษณ์ที่ ผ่านมา

ฝากประชาสัมพันธ์ เปิดรับสมัคร นักศึกษาใหม่ ปีการศึกษา 2559 www.it.mut.ac.th 
สอบถามข้อมูล
คณะวิทยาการและเทคโนโลยีสารสนเทศ (IST)

สวัสดีค่ะ พี่หมอ รบกวนช่วยแนะนำเรื่องระบบ WIFI Network ให้หน่อยค่ะ ^^
Ep.06 สวัสดี ค่ะหมอ ^^ IST YELLOW ฉบับนี้ เรามีโอกาสได้สัมภาษณ์ พี่หมอ (แต่จริงๆ แล้ว เป็นเด็กสาขา NETS) รุ่นพี่คนนี้เป็นทั้งนักกิจกรรม เด็กเกียรตินิยมอันดับ 1 หัวหน้าชมรม ผู้คว้ารางวัลชนะเลิศทางด้าน Network ระดับประเทศ คือพี่คะ สำหรับหนูพี่คือ Superman ตัวเป็นๆ ที่มาของฉายา "พี่หมอ" มาจากการที่เคยเป็นนักศึกษาแพทย์ มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ แต่ก็ผันตัวมาเรียนสายเทคโนโลยี ระบบเครือข่ายในสาขาวิศวกรรมเครือข่ายฯ ของคณะเรา จากเรื่องราวนี้ พี่ๆ น้องๆ ในคณะจึงรู้กันว่า "พี่หมอ NETS" ก็คือ พี่ดิ๊บ ณัฐพล เปรมจิตต์เสถียร นั่นเอง ^^
"The NetRider"
แนะนำตัวหน่อยค่ะ ? “ สวัสดีครับ ดิ๊บครับ (แต่เพื่อนๆ ในคณะฯ เรียก “หมอ”, “พี่หมอ”, “ไอ้หมอ” แล้วแต่ความสนิท ฮ่าๆๆ) ” ก่อนมาเรียนที่นี่ ได้ข่าวว่าพี่เป็นนักศึกษาแพทย์ ? “ เคยเรียนอยู่ในคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่ออกมาก่อนเนื่องจากพบว่าตัวเองไม่ชอบการทำงานในสายอาชีพหมอ ส่วนหนึ่งเพราะต้องแบกรับความกดดันกับชีวิตคนมากเกินไป และเรียนหนักมากไม่ชอบ ฮ่าๆๆ ถ้าไม่ใจรักหรืออดทนมากๆ นี่ทำไม่ได้จริงๆ รู้จักที่นี่ผ่านทางพ่อครับ พ่ออยู่ฝ่ายบุคคลของบริษัทแห่งหนึ่ง ก็เลยรู้จักมหาวิทยาลัยหลายๆ แห่ง พอบอกว่าอยากเรียนเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ่อก็แนะนำที่นี่ครับ แล้วก็พี่ชายทำงานด้านสาย Network ด้วย พี่ก็แนะนำเกี่ยวกับงานด้านนี้ ก็เลยรู้สึกชอบครับ บวกกับปีที่เข้านั้นเป็นปีแรกที่ IST เปิดสาขา NETS ด้วย เลยยิ่งสนใจเลยครับ"
ตอนนี้ทำงานที่ไหน ? “ บริษัท AIT (Advanced Information Technology PCL.) ครับ ตำแหน่ง Project Engineer ” เส้นทางสู่เวที NetRiders ? “ ตอนนั้นปิดเทอมปี 1 กำลังจะขึ้นปี 2 อ.ณัฐ มาเจริญ ส่งไปลองสนามครับ ทำไม่ได้เลยครับ เข้ารอบสุดท้าย 20 ทีมแล้วก็แพ้ครับ หลังจากนั้นเลยตั้งเป้าว่ายังไงต้องแก้มือให้ได้ เลยลุยอ่านหนังสือมากขึ้นเยอะครับ เตรียมตัวสำหรับปีถัดไป คิดว่าจะทำให้ได้ จนปี 2013 และ ปี 2014 ได้รับรางวัลชนะเลิศ Cisco Thailand Netrider 2 สมัย , รางวัลชนะเลิศการแข่งขันค้นหาสุดยอดฝีมือโทรคมนาคมและไอซีทีเฉลิมพระเกียรติ ครั้งที่ 7 ปี 2014 ” เราฟังพี่หมอเล่าเรื่องราวเบื้องหลังการแข่งขันแล้ว เราไม่แปลกใจเลยที่พี่หมอ จะได้รับรางวัลนี้ เพราะพี่เขาทุ่มเท ทุกๆ อย่างเพื่อ NetRider จริงๆ
พี่สุดยอดมากค่ะ ตอนเรียนพี่คิดอะไรอยู่ ?  “ สำคัญสุดคือความรู้พื้นฐานครับ เราต้องรู้ว่าวิชาไหน ที่เป็นพื้นฐาน ที่เราสามารถนำไปต่อยอดกับวิชาอื่นๆ ได้ครับ บางคนตอนเรียนวิชา A ไม่สนใจ ไม่ขยัน ปล่อยผ่าน พอเทอมถัดไปเรียนวิชา B จะกลับมาขยัน บางทีมันลำบากแล้วครับ เพราะมันใช้ความรู้วิชา A ด้วย ” เราเห็นด้วย และก็รู้สึกเหมือนโดนตำหนิ ในเวลาเดียวกัน ฮ่าๆๆๆ " สำคัญที่สุดก็คงเป็นเรื่องที่เรา บอกกับตัวเองว่าเราจะช้าไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว ต้องวิ่งครับไม่เดินแล้ว "
มีวิธีรับมือกับความกดดันอย่างไร ? “ ใช้ชีวิตแบบคิดบวกครับ ไม่อย่างงั้นไม่มีความสุขหรอกครับ มันต้องมีทั้งเรื่องที่ดีและไม่ดีเกิด กับชีวิตเราครับ เราเลือกเก็บแต่สิ่งที่ดีๆ ก็พอครับ ยิ่งถ้าทำงานสายนี้ด้วยแล้ว เรื่องเทคโนโลยีครับ มันผ่านมาไว แล้วก็ไปไวครับ ต้องขยันเรียนรู้อยู่ตลอดครับ ถ้ามันยึดติดกับเรื่องที่บั่นทอนจิตใจ ก็ไม่ต้องทำอะไรกันพอดี ”
ถ้าพูดถึงคณะฯ จะนึกถึง ? “ ป้าย Quote เด็ดของอาจารย์แต่ละท่านบนป้ายที่แขวนอยู่ในตึก Q ครับ คือมันใช่มาก ฮ่าๆๆ มันทำให้นึกถึงบรรยากาศความเป็นกันเองระหว่าง อาจารย์และลูกศิษย์ด้วยครับ ”
วีดีโอที่พี่หมอ ได้ร่วมแสดงให้กับทางคณะ มาดเข้มมาเลย ^^"
เป้าหมายต่อไปจากวันนี้ ? " เรียนรู้เพิ่มเติมในสายงานนี้แหละครับ เก็บประสบการณ์ ความรู้ เพื่อนำไปสอบ Cert. ในสายงาน Cisco ให้ไปถึงระดับสูงสุด CCIE ให้ได้ครับ "
ถ้าจะให้แนะนำภาพยนตร์ สักเรื่อง ?
“ หนังเรื่อง 12 Angry Men ครับ เป็นหนังเก่ามากครับภาพยังเป็น ขาว-ดำอยู่เลย แต่เป็นหนังที่ดีมากครับ หนังกล่าวถึงคณะลูกขุน 12 คน ได้ตัดสินคดีๆหนึ่ง โดยคดีที่ตัดสินมีผลต่อชีวิตของเด็กที่เป็น จำเลยว่าจะโดนประหารหรือไม่ ในตอนต้นเรื่องคะแนนเป็น 11 ต่อ 1 โดย 11 เสียงนั้นให้เด็กผิดจริง โดยหนังที่เหลือทั้งเรื่องเป็นฉากที่พระเอกซึ่งก็คือ 1 เสียงในตอนแรก ใช้เหตุผลในการถกเถียงกับ 11 เสียงครับ ที่ชอบมี 2 เหตุผลครับ 1. หนังเรื่องนี้สะท้อนสังคมมากๆครับฉากการถกเถียงกันของคณะลูกขุน เปรียบแทนความคิด การใช้เหตุผล อคติ หลายรูปแบบเลยครับ 2. หนังเรื่องนี้มีฉากหลักแค่ฉากเดียวครับคือในห้องตัดสินของคณะลูกขุน มีฉากอื่นนิดหน่อย ซึ่งแม้จะเป็นอย่างนั้นหนังก็ทำออกมาได้น่าติดตาม ไม่น่าเบื่อเลยครับ ”
" ดิ๊บเป็นตัวอย่างที่ดี ในการใช้ชีวิต เป็นคนที่จัดการกับชีวิตได้อย่างมีระบบ และสร้างสรรค์สิ่งดีๆ เพื่อส่วนรวมอยู่เสมอ " อ.ณัฐ มาเจริญ
ISTYELLOW บทสัมภาษณ์ที่ ผ่านมา

ฝากประชาสัมพันธ์ เปิดรับสมัคร นักศึกษาใหม่ ปีการศึกษา 2559 www.it.mut.ac.th 
สอบถามข้อมูล
คณะวิทยาการและเทคโนโลยีสารสนเทศ (IST)

สวัสดีค่ะ พี่หมอ รบกวนช่วยแนะนำเรื่องระบบ WIFI Network ให้หน่อยค่ะ ^^
Ep.06 สวัสดี ค่ะหมอ ^^ IST YELLOW ฉบับนี้ เรามีโอกาสได้สัมภาษณ์ พี่หมอ (แต่จริงๆ แล้ว เป็นเด็กสาขา NETS) รุ่นพี่คนนี้เป็นทั้งนักกิจกรรม เด็กเกียรตินิยมอันดับ 1 หัวหน้าชมรม ผู้คว้ารางวัลชนะเลิศทางด้าน Network ระดับประเทศ คือพี่คะ สำหรับหนูพี่คือ Superman ตัวเป็นๆ ที่มาของฉายา "พี่หมอ" มาจากการที่เคยเป็นนักศึกษาแพทย์ มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ แต่ก็ผันตัวมาเรียนสายเทคโนโลยี ระบบเครือข่ายในสาขาวิศวกรรมเครือข่ายฯ ของคณะเรา จากเรื่องราวนี้ พี่ๆ น้องๆ ในคณะจึงรู้กันว่า "พี่หมอ NETS" ก็คือ พี่ดิ๊บ ณัฐพล เปรมจิตต์เสถียร นั่นเอง ^^ "The NetRider"
แนะนำตัวหน่อยค่ะ ? “ สวัสดีครับ ดิ๊บครับ (แต่เพื่อนๆ ในคณะฯ เรียก “หมอ”, “พี่หมอ”, “ไอ้หมอ” แล้วแต่ความสนิท ฮ่าๆๆ) ” ก่อนมาเรียนที่นี่ ได้ข่าวว่าพี่เป็นนักศึกษาแพทย์ ? “ เคยเรียนอยู่ในคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่ออกมาก่อนเนื่องจากพบว่าตัวเองไม่ชอบการทำงานในสายอาชีพหมอ ส่วนหนึ่งเพราะต้องแบกรับความกดดันกับชีวิตคนมากเกินไป และเรียนหนักมากไม่ชอบ ฮ่าๆๆ ถ้าไม่ใจรักหรืออดทนมากๆ นี่ทำไม่ได้จริงๆ รู้จักที่นี่ผ่านทางพ่อครับ พ่ออยู่ฝ่ายบุคคลของบริษัทแห่งหนึ่ง ก็เลยรู้จักมหาวิทยาลัยหลายๆ แห่ง พอบอกว่าอยากเรียนเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ่อก็แนะนำที่นี่ครับ แล้วก็พี่ชายทำงานด้านสาย Network ด้วย พี่ก็แนะนำเกี่ยวกับงานด้านนี้ ก็เลยรู้สึกชอบครับ บวกกับปีที่เข้านั้นเป็นปีแรกที่ IST เปิดสาขา NETS ด้วย เลยยิ่งสนใจเลยครับ"
ตอนนี้ทำงานที่ไหน ? “ บริษัท AIT (Advanced Information Technology PCL.) ครับ ตำแหน่ง Project Engineer ” เส้นทางสู่เวที NetRiders ? “ ตอนนั้นปิดเทอมปี 1 กำลังจะขึ้นปี 2 อ.ณัฐ มาเจริญ ส่งไปลองสนามครับ ทำไม่ได้เลยครับ เข้ารอบสุดท้าย 20 ทีมแล้วก็แพ้ครับ หลังจากนั้นเลยตั้งเป้าว่ายังไงต้องแก้มือให้ได้ เลยลุยอ่านหนังสือมากขึ้นเยอะครับ เตรียมตัวสำหรับปีถัดไป คิดว่าจะทำให้ได้ จนปี 2013 และ ปี 2014 ได้รับรางวัลชนะเลิศ Cisco Thailand Netrider 2 สมัย , รางวัลชนะเลิศการแข่งขันค้นหาสุดยอดฝีมือโทรคมนาคมและไอซีทีเฉลิมพระเกียรติ ครั้งที่ 7 ปี 2014 ” เราฟังพี่หมอเล่าเรื่องราวเบื้องหลังการแข่งขันแล้ว เราไม่แปลกใจเลยที่พี่หมอ จะได้รับรางวัลนี้ เพราะพี่เขาทุ่มเท ทุกๆ อย่างเพื่อ NetRider จริงๆ
พี่สุดยอดมากค่ะ ตอนเรียนพี่คิดอะไรอยู่ ?  “ สำคัญสุดคือความรู้พื้นฐานครับ เราต้องรู้ว่าวิชาไหน ที่เป็นพื้นฐาน ที่เราสามารถนำไปต่อยอดกับวิชาอื่นๆ ได้ครับ บางคนตอนเรียนวิชา A ไม่สนใจ ไม่ขยัน ปล่อยผ่าน พอเทอมถัดไปเรียนวิชา B จะกลับมาขยัน บางทีมันลำบากแล้วครับ เพราะมันใช้ความรู้วิชา A ด้วย ” เราเห็นด้วย และก็รู้สึกเหมือนโดนตำหนิ ในเวลาเดียวกัน ฮ่าๆๆๆ " สำคัญที่สุดก็คงเป็นเรื่องที่เรา บอกกับตัวเองว่าเราจะช้าไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว ต้องวิ่งครับไม่เดินแล้ว "
มีวิธีรับมือกับความกดดันอย่างไร ? “ ใช้ชีวิตแบบคิดบวกครับ ไม่อย่างงั้นไม่มีความสุขหรอกครับ มันต้องมีทั้งเรื่องที่ดีและไม่ดีเกิด กับชีวิตเราครับ เราเลือกเก็บแต่สิ่งที่ดีๆ ก็พอครับ ยิ่งถ้าทำงานสายนี้ด้วยแล้ว เรื่องเทคโนโลยีครับ มันผ่านมาไว แล้วก็ไปไวครับ ต้องขยันเรียนรู้อยู่ตลอดครับ ถ้ามันยึดติดกับเรื่องที่บั่นทอนจิตใจ ก็ไม่ต้องทำอะไรกันพอดี ”
ถ้าพูดถึงคณะฯ จะนึกถึง ? “ ป้าย Quote เด็ดของอาจารย์แต่ละท่านบนป้ายที่แขวนอยู่ในตึก Q ครับ คือมันใช่มาก ฮ่าๆๆ มันทำให้นึกถึงบรรยากาศความเป็นกันเองระหว่าง อาจารย์และลูกศิษย์ด้วยครับ ”
วีดีโอที่พี่หมอ ได้ร่วมแสดงให้กับทางคณะ มาดเข้มมาเลย ^^"
เป้าหมายต่อไปจากวันนี้ ? " เรียนรู้เพิ่มเติมในสายงานนี้แหละครับ เก็บประสบการณ์ ความรู้ เพื่อนำไปสอบ Cert. ในสายงาน Cisco ให้ไปถึงระดับสูงสุด CCIE ให้ได้ครับ "
ถ้าจะให้แนะนำภาพยนตร์ สักเรื่อง ?
“ หนังเรื่อง 12 Angry Men ครับ เป็นหนังเก่ามากครับภาพยังเป็น ขาว-ดำอยู่เลย แต่เป็นหนังที่ดีมากครับ หนังกล่าวถึงคณะลูกขุน 12 คน ได้ตัดสินคดีๆหนึ่ง โดยคดีที่ตัดสินมีผลต่อชีวิตของเด็กที่เป็น จำเลยว่าจะโดนประหารหรือไม่ ในตอนต้นเรื่องคะแนนเป็น 11 ต่อ 1 โดย 11 เสียงนั้นให้เด็กผิดจริง โดยหนังที่เหลือทั้งเรื่องเป็นฉากที่พระเอกซึ่งก็คือ 1 เสียงในตอนแรก ใช้เหตุผลในการถกเถียงกับ 11 เสียงครับ ที่ชอบมี 2 เหตุผลครับ 1. หนังเรื่องนี้สะท้อนสังคมมากๆครับฉากการถกเถียงกันของคณะลูกขุน เปรียบแทนความคิด การใช้เหตุผล อคติ หลายรูปแบบเลยครับ 2. หนังเรื่องนี้มีฉากหลักแค่ฉากเดียวครับคือในห้องตัดสินของคณะลูกขุน มีฉากอื่นนิดหน่อย ซึ่งแม้จะเป็นอย่างนั้นหนังก็ทำออกมาได้น่าติดตาม ไม่น่าเบื่อเลยครับ ”
" ดิ๊บเป็นตัวอย่างที่ดี ในการใช้ชีวิต เป็นคนที่จัดการกับชีวิตได้อย่างมีระบบ และสร้างสรรค์สิ่งดีๆ เพื่อส่วนรวมอยู่เสมอ " อ.ณัฐ มาเจริญ
ISTYELLOW บทสัมภาษณ์ที่ ผ่านมา

ฝากประชาสัมพันธ์ เปิดรับสมัคร นักศึกษาใหม่ ปีการศึกษา 2559 www.it.mut.ac.th 
สอบถามข้อมูล
คณะวิทยาการและเทคโนโลยีสารสนเทศ (IST)